องค์ความรู้ด้านการค้าชายแดน
การจัดการองค์ความรู้ด้านการค้าชายแดน
——————
องค์ความรู้ ด้านกฎระเบียบ
1. การนำเข้าสินค้าเกษตรตามแนวชายแดนจังหวัดตาก
– การนำเข้าสินค้าเกษตรใต้กรอบ ACMECS ตามโครงการ Contract Farming ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ไม่สามารถนำเข้าผลผลิตได้ตามเป้าหมาย ถึงแม้ว่ามาตรการช่วยเหลือทางภาครัฐจะยกเว้นภาษีการนำเข้าตามโครงการ แต่ทางปฎิบัติในการขนสินค้าเข้ามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ซึ่งต่างมีกฎระเบียบการนำของเข้ามาในราชอาณาจักรที่ต้องรักษาปฎิบัติอย่างเคร่งครัด และมีข้อจำกัดความ ในแนวปฎิบัติมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่มีความชำนาญด้านการทำพิธีการต่างๆ ไม่สามารถนำสินค้าเข้าได้ตามเป้าหมาย
– การนำเข้าภายใต้ AISP การที่กระทรวงการคลัง กำหนดให้ผู้ที่จะใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรตามเงื่อนไข ในฐานะสมาชิกอาเซียนใหม่ ( AISP ) ต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ( Form AISP ) จากสหภาพพม่ามาแสดงในขณะผ่านพิธีการทางศุลกากร ซึ่งในทางปฎิบัติ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ค้าขายกับชนกลุ่มน้อยเป็นหลัก ทำให้ไม่สามารถหาใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าดังกล่าวมาแสดงได้ จึงต้องเสียภาษี หรือลักลอบนำเข้า
– การนำเข้าตามการเปิดตลาดตามข้อผูกพันของ WTO สำหรับสินค้าเกษตร 22 รายการ เฉพาะนอกโควต้า ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจะต้องขออนุญาตในการนำเข้า จึงจะต้องขอหนังสือรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าต่างประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ
ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านกฎระเบียบ การนำเข้าตามกรณีต่างๆ มีการแก้ไข หรือเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานในส่วนที่ภูมิภาคไม่สามารถดำเนินการได้
– กรณี Contract Farming มีการผ่อนปรนกฎระเบียบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถนำพืชเป้าหมายได้มากกว่าการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา
– กรณี AISP หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านชายแดน ได้รับทราบปัญหาและมีการหารือในระดับทางการ และไม่เป็นทางการ ให้สามารถออกใบรับรองแหล่งกำเนิดได้สะดวกมากขึ้น
ทั้งนี้ การนำเข้าทั้ง 2 กรณี ผู้ประกอบการสามารถรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีในการนำเข้าร้อยละ 0 ซึ่งทำให้เกิดผลประโยชน์ต่อการผลิตภายในประเทศ ที่ยังคงมีความต้องการวัตถุดิบในการผลิตภายใน ตลอดจนสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรประเทศเพื่อนบ้านให้มีงานทำ ลดการลักลอบการเข้ามาใช้แรงงานภายในประเทศไทย ทำให้เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในแถบชายแดนให้มีอำนาจในการซื้อมายิ่งขึ้น
– กรณี WTO ( นอกโควตา ) ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงที่มีสิทธิอนุญาตในการนำเข้า ได้มอบอำนาจในการอนุญาตให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการมอบหมายในจังหวัดนั้น ซึ่งเป็นความสร้างความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปขอหนังสือรับรองที่ สำนักงานการค้าต่างประเทศในจังหวัดเชียงใหม่
2. การนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์เข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดนจังหวัดตาก
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการนำเข้าสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร(ฉบับที่ 92) พ.ศ 2535 ลงวันที่ 30 พ.ย 2535 ให้ไม้และไม้แปรรูปทุกชนิดรวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้ ซึ่งนำเข้าทางด่านศุลกากรที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ต้องมีใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือฐานการอนุญาตให้ส่งออกของประเทศที่ส่งออกแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการทำพิธีการนำเข้า ประกาศดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการค้าสิ่งประดิษฐ์ในจังหวัดได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาส่งเสริมการค้าชายแดน จึงมีการผลักดันจากกลุ่มผู้ประกอบการในการนำเข้า และหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอแนะปัญหาที่เกิดขึ้น ครม.มีมติผ่อนผันการนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์ ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ทำให้เกิดประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 ขึ้น โดยมอบหมายให้จังหวัดบริหารการนำเข้าตามจุดที่อนุญาต และกำหนดคุณสมบัติของสิ่งประดิษฐ์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์จากการดำเนินงานนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ในฐานะสำนักงานพาณิชย์เป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารการนำเข้า ฯ มีการหารือในระเบียบข้อปฎิบัติจากหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง เช่น ด่านศุลกากรแม่สอด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อำเภอท้องที่ ผู้ประกอบการนำเข้าไม้ เจ้าของคลังสินค้า ฝ่ายทหารและ ตำรวจ มีการกำหนดระเบียบเฉพาะที่ชัดเจนเป็นไปแนวทางเดียวกัน จึงทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์ได้มากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างมูลค่าการค้าชายแดนที่สูงขึ้นเพื่อรองรับตัวชี้วัดด้านมูลค่าการค้าชายของจังหวัดตาก และเป็นการ สร้างรายได้ให้ดับจังหวัดตาก ผู้ประกอบการนำของเข้าระบบตามกฎหมายมากขึ้น ภาครัฐสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ตลอดจนเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในด้านชายแดนจังหวัดตากมากขึ้น
3. การส่งเสริมและพัฒนาการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งมุ่งเน้นใน 3 เรื่อง หลัก คือ การสร้างนิคมอุตสาหกรรม การปรับโครงสร้างด้านการเกษตร และการท่องเที่ยว ซึ่งอำเภอในเขตชายแดนของจังหวัดตากมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทั้งด้านแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัด แหล่งรับซื้อพืชไร่ เป็นแหล่งแรงงานของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ ตลอดจนเป็นแหล่งอุตสาหกรรมดังเดิมของจังหวัดตาก ซึ่งทำให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของการดำเนินงานของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตากที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการค้าชายแดนให้เกิดการขยายตัวมากขึ้น มีการดำเนินงานในกิจกรรมหลากหลายที่เป็นการสนับสนุน เช่น โครงการ Contract Farming , การฝึกอบรม/ศึกษาดูงาน ความรู้ด้านการนำเข้าส่งออกให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐ , การส่งเสริมตลาดต่างประเทศ , การจัดตั้งศูนย์บริการกระทรวงพาณิชย์สาขาแม่สอด เป็นต้น
ประโยชน์ในการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาการค้าชายแดน นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าการค้าที่สูงขึ้น ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับพม่าให้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น จากการประชุมพบปะในลักษณะที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทำให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของภาครัฐและเอกชนทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีในทุกระดับและแก้ไขปัญหาการค้าระหว่างไทยกับพม่าอย่างจริงจัง เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างประเทศในระยะยาวบนพื้นฐานของความไว้ใจซึ่งกันและกัน ขจัดความหวาดระแวงและทัศนคติในแง่ลบด้านต่างๆ ของประชาชนทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้ผู้ประกอบการค้าชายแดนที่อยู่นอกระบบ เข้ามาอยู่ในระบบพิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน สามารถลดขั้นตอนการปฏิบัติพิธีการที่เกี่ยวข้องต่างๆ และผ่อนผันในลักษณะการดำเนินการค้าชายแดนได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ปัญหาหลักของการค้าชายแดนจังหวัดตาก ด้านอำเภอแม่สอด มีปัญหาหลักคือการออกกฎระเบียบของรัฐบาลทหารพม่า ที่มีความไม่แน่นอน มีการยึดหยุ่นน้อย และปัญหาอีกประการหนึ่ง คือ พื้นที่ชายแดนที่ติดต่อกับประเทศไทยด้านจังหวัดตาก เป็นชนกลุ่มน้อยที่รัฐบาลทหารพม่าไม่ยอมรับในการปกครองตัวเอง จึงทำให้รับบาลไม่สนับสนุนส่งเสริมในเชิงเศรษฐกิจ และความมั่นคง เกิดภาวะความเคลือบแคลงใจต่อประเทศไทยตลอดมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้หลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีการศึกษา หาแนวทาง ตลอดจนดำเนินการส่งเสริมการค้าชายแดนผ่านกิจกรรมต่างๆ อันจะมีผลให้การค้าชายแดนขยายตัวในทิศทางที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น
1.ความรู้ด้านการนำเข้าไม้และแปรรูป รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้ เข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดน
มาตรการกำกับดูแลการนำเข้าสิ่งประดิษฐ์รายใหม่ ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 จังหวัดกำหนดมาตรการการกำกับดูแล วิธีการ ข้อกำหนด โดยให้หน่วยงาน 6 หน่วยงาน ได้แก่ ด่านศุลกากรแม่สอด สำนักงานป่าไม้จังหวัด กองกำลังนเรศวร สถานีตำรวจภูธร สำนักงานพาณิชย์จังหวัด อำเภอแม่สอด จัดส่งเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบไม้และสิ่งประดิษฐ์ไม้ที่ได้ขออนุญาตนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีการตรวจสอบตั้งแต่พาหนะบรรทุกสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรและขนย้ายสินค้าเข้าไปยังคลังสินค้าในการอารักขาของกรมศุลกากร เพื่อให้การบริการแก่ประชาชนเกิดความรวดเร็วภายใต้ข้อจำกัดและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ จังหวัดกำหนดให้มีการปฏิบัติงานร่วมตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในวันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี โดยขอความร่วมมือผู้นำเข้าสินค้าดำเนินการให้มีการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรในช่วงเวลาเช้า เพื่อสามารถตรวจปล่อยได้ภายในวันเดียวกัน โดยไม่ต้องพักสินค้าไว้ที่คลังสินค้า
ไม้และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้ ที่ได้รับการตรวจสอบ หากพบว่าไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ เช่น มีคุณสมบัติและลักษณะผิดจากประกาศกำหนด มีสิ่งของผิดกฎหมายปะปนฯลฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมาย ในแต่ละฐานความผิดทันที
ในแนวปฏิบัติการนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์ฯ ต้องประสบกับปัญหาและอุปสรรคหลายด้าน เช่น กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน ความไม่พร้อมของเจ้าหน้าที่ในแต่ละจุด ความไม่พร้อมด้านเอกสาร ความไม่ชัดเจนในขั้นตอนการปฏิบัติของผู้ประกอบการ ตลอดจนความปลอดภัยในการขนส่ง ส่งผลให้ต้องมีการประชุม ชี้แจง เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของการนำเข้าไม้และแปรรูปรวมทั้งสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้ เข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดน ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น และเป็นการลดการตัดไม้ทำลายป่าในประเทศ และจากการที่เราต้องมีการเข้มงวดการนำเข้า เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้ในประเทศ และสวมรอยเป็นไม้นำเข้า เพื่อนำเข้าสู่ประเทศไทย
2.ความรู้จากการดำเนินโครงการ Contract Farming
โครงการ Contract Farming เป็นโครงการเพื่อพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน โดยความร่วมมือของภาครัฐ และเอกชน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการหรือพ่อค้า พืชไร่ในประเทศ เข้าไปติดต่อกับเกษตรกรในจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกสินค้าเกษตรที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียวผิวมัน ซึ่งที่ผ่านมา ยังคงติดปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าหลายประการ ทำให้การนำเข้านอกระบบยังคงมีสูง โครงการ Contract Farming นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่พยายามทำให้เกิดความร่วมมือแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมได้ในอนาคต
สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ได้ดำเนินงานตามโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบการส่งเสริมเป็นในลักษณะการรับสมัครผู้ประกอบการค้าพืชไร่ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก เข้าร่วมโครงการ โดยผู้ประกอบการจะต้องเข้าไปสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกรในเขตจังหวัดเมียวดี ปลูกพืชเป้าหมายตามแผนลงทุน เมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยว ผู้ประกอบการจะต้องรับซื้อผลผลิตที่เข้าไปส่งเสริมในราคาที่เหมะสมและเป็นธรรมต่อเกษตรในสหภาพพม่า ทั้งนี้ภาครัฐจะสนับสนุนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโดยการยกเว้นภาษีในการนำเข้าผลผลิตดังกล่าว
ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ คือทำให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้น และเป็นการสนับสนุนการดำเนินโครงการ ACMECS ทำให้ประเทศไทยแหล่งวัตถุดิบราคาถูก สามารถนำเข้ามาใช้ในประเทศได้ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านก็จะได้รับประโยชน์ คือประชาชนในประเทศที่ได้รับการส่งเสริมก็จะมีงานทำ และมีรายได้ ทำให้ลดปัญหาการลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ด้วย
3. ความรู้ที่ได้รับจากการประชุม เรื่องการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดตาก
การพัฒนาพื้นที่ชายแดนของจังหวัดตากเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดตาก จังหวัดตากมีความได้เปรียบด้านที่ตั้ง สามารถสนองตอบต่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนได้เป็นอย่างดี โดยตั้งอยู่ปลายแนวทางเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East-west Economic Corridor) สามารถเชื่อมโยงไปยังพม่าและกลุ่มประเทศเอเชียใต้หรือเชื่อมโยงไปยังสปป.ลาว และเวียดนามได้ จากจากนี้จังหวัดตากโดยเฉพาะอำเภอแม่สอดแม่ระมาดและพบพระ เป็นพื้นที่ชายแดนและอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติทั้งในไทยและพม่า ซึ่งมีโอกาสพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดน เพื่อสนับสนุนการกระจายการพัฒนาไปยังภูมิภาคอื่นที่มีความเจริญน้อยกว่าเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ กระจายอุตสาหกรรมออกจากบริเวณที่มีการกระจุกตัวและก่อปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมในพื้นที่เดิม พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานในพื้นที่ให้ดีขึ้น ดึงดูดการลงทุนจากแหล่งทุนในประเทศและต่างประเทศ และรวมกลุ่มอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมต่อเนื่องให้อยู่ในบริเวณเดียวกันซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกในการควบคุมดูแลด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม
ศักยภาพของจุดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนจังหวัดตาก
(1) พื้นที่อำเภอแม่สอดเป็นทั้งฐานการค้าชายแดน และฐานการผลิตที่ใช้แรงงานเข้มข้น มีแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ และภาครัฐได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในการำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากได้มีการยกระดับมาตรฐานเศรษฐกิจในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งรัฐจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอ กำหนดสิทธิประโยชน์และสิ่งจูงใจการลงทุนเพิ่มเป็นกรณีพิเศษและจัดกลไกการบริหารที่มีความชัดเจน คล่องตัว และมีอำนาจในการตัดสินใจเบ็ดเสร็จ จะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจบริเวณชายแดนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ สามารถตอบสนองการเป็นประตูการค้าได้อย่างสมบูรณ์
(2) พื้นที่อำเภอพบพระและแม่ระมาดเป็นฐานเกษตรและอุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมโยงกับอำเภอแม่สอดได้โดยสะดวก โดยอำเภอพบพระซึ่งอยู่ทางตอนล่างของแม่สอดและอำเภอแม่ระมาดซึ่งอยู่ตอนบนของแม่สอด เป็นแหล่งผลิตเกษตรที่สำคัญขอจังหวัดตาก โดยเฉพาะพืชไร่เศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เป็นต้น และพืชผักผลไม้ที่มีคุณภาพ เช่น กระเทียม ผักกาดขาวผลี หอมแดง กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง แมคคาเดเมีย ลิ้นจี่ เป็นต้น และฐานอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัด โดยเฉพาะที่อำเภอแม่ระมาดเป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนที่อำเภอพบพระเป็นแหล่งผลิตอาหารสำเร็จรูป ซึ่งทั้งสองอำเภอสามารถเชื่อมโยงการผลิตร่วมกับอำเภอแม่สอดได้อย่างเป็นระบบที่จะนำไปสู่เขตเศรษฐกิจชายแดนโดยสมบูรณ์แบบต่อไป
(3) พื้นที่มีจำนวนมากสามารถรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนโดยเฉพาะอำเภอแม่สอด (บริเวณรอบนอกเขตเทศบาลเมืองแม่สอด) อำเภอพบพระ และอำเภอแม่ระมาด ยังมีพื้นที่เปิดโล่งอยู่เป็นจำนวนมากที่สามารถนำมาพัฒนาได้ ในขณะที่ภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่ให้การสนับสนุนแนวทางการพัฒนาดังกล่าว รวมทั้งพร้อมมีส่วนร่วมการนิงานไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว นอกจากนี้พื้นที่ฝั่งเมียวดียังมีเพียงพอและมีศักยภาพนำมาพัฒนาร่วมกันได้ในอนาคต
(4) พื้นที่ศักยภาพที่จะขยายโอกาสการลงทุนเป็นเขตเศรษฐกิจชายแดนร่วมกับเมียวดีของพม่าได้ในอนาคตเนื่องจาก ทั้งสองประเทศมีปัจจัยที่มีความได้เปรียบแตกต่างกันโดยไทยมีความพร้อมทั้งในด้านสาธารณูปโภค เทคโนโลยี การจัดการความเชี่ยวชาญทางการค่า และแรงงานฝีมือ ส่วนพม่ามีความได้เปรียบที่มีแรงงานจำนวนมากและมีอัตราค่าจ้างอยู่ในระดับต่ำที่เอื้อต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้น และมีวัตถุดิบป้อนโรงงาน โดยเฉพาะแร่ธาตุและอัญมณี ผลิตผลทางการเกษตร ไม้ ทรัพยากรสัตว์น้ำทะเล รวมทั้งเป็นตลาดบริโภคสินค้าพื้นฐานจำเป็นขนาดใหญ่ ซึ่งหากมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนร่วมกันจะทำให้เกิดการใช้ปัจจัยการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งประเทศ
ปัญหาและอุปสรรค
ปัญหาความมั่นคงทางด้านชายแดน เนื่องจากพื้นที่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดติดต่อกับชายแดนของพม่า มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ ซึ่งมีอุดมการณ์ทางด้านการเมืองที่แตกต่างไปจากรัฐบาลพม่าและทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลพม่าทำให้เกิดการสู้รบบริเวณชายแดนอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเมืองภายในประเทศ รวมทั้งการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวของจังหวัด รัฐบาลพม่าพยายามกดดันทั้งด้านการทหารและเศรษฐกิจ กับชนกลุ่มน้อย และไม่ต้องการส่งเสริมการค้าในบริเวณนี้ จึงทำให้การค้าชายแดนด้านอำเภอแม่สอด ประสบความเสี่ยงสูง ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ได้หลบหนีภัยจากการสู้รบในเขตพม่า เข้ามาอาศัยอยู่ตามบริเวณชายแดนในเขตประเทศไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากก่อให้เกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างไทยและพม่าตามบริเวณชายแดนแล้ว ยังสร้างปัญหาความไม่ปลอดภัยให้แก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชายแดนอยู่ตลอดเวลา
ความรู้ด้านการค้าชายแดน
การนำเข้า – ส่งออก เป็นเรื่องที่สำคัญในทางเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง เมื่อพิจารณาจากด่านที่มีการติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน การค้าชายแดนของจังหวัดตาก จังหวัดตากแบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งด้านตะวันออก ประกอบไปด้วยอำเภอเมือง อำเภอบ้านตาก อำเภอสามเงา และกิ่งอำเภอวังเจ้า และฝั่งตะวันตก ตะวันตก ประกอบไปด้วย อำเภอแม่สอด อำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง อำเภอพบพระ อำเภออุ้มผาง ฝั่งตะวันตกมี 5 อำเภอที่กล่าวมานี้ เป็นอำเภอในด้านเศรษฐกิจของจังหวัดตาก
วันที่ 2 กันยายน 2549 หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ได้จัดงาน ”สานสัมพันธ์หอการค้า” ณ โรงแรมเซ็นทรัลแม่สอดฮิลล์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และหอการค้าจากประเทศพม่า รวมทั้งผู้ประกอบการภาคเอกชนและหอการค้าจังหวัดตาก และภาครัฐ เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก งานที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) รวมทั้งในงานนี้มีการจัดจำหน่ายสินค้าของพม่า และสินค้า OTOP) ของไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน สินค้าพวกที่นำมาจำหน่าย เป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน ในการจัดงานในครั้งนี้ได้ทั้งความรู้และได้ทั้งขายของ(ได้เงิน) เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทย และประเทศพม่า เกิดความจริงใจ และเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกับประเทศไทย
วันที่ 12 กันยายน 2549 เป็นงานสัมมนาความรู้ด้านการนำเข้า – ส่งออก จัด ณ โรงแรมเซ็นทรัลแม่สอดฮิลล์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรม เกษตรและสหกรณ์ จากภาครัฐบาล และภาคเอกชน ที่สนใจเป็นอย่างมาก การจัดงานในครั้งนี้ผู้ประกอบการค้าขายจะได้มีความรู้เรื่องกฎ ระเบียบ วิธีการนำเข้าและส่งออก สินค้าเกษตรซึ่ง เป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้งบยุทธศาสตร์การบริการงานจังหวัดแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ในโครงการนี้ก็มีกิจกรรม Contract Farming เป็นกิจกรรมทางด้านความรู้การนำเข้า – ส่งออก การจัดงานในครั้งนี้ ทำให้ผู้ประกอบการได้ความรู้ด้านการนำเข้า – ส่งออกประเภทพืช ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยวสัตว์ ถั่วเขียว พืชผักและผลไม้ ทำให้ผู้ประกอบการรวมทั้งภาครัฐได้รับความรู้เรื่องกฎ ระเบียน ด้านการนำเข้า – ส่งออกจากการสัมมนาเป็นอย่างมาก
ในงบประมาณ 2549
ศูนย์บริการกระทรวงพาณิชย์จังหวัดตากฯ
ได้กำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระทรวงพาณิชย์ สาขาแม่สอด โดยใช้งบประมาณ ทางจังหวัด ผู้ประกอบการรวมทั้งภาครัฐได้รับความรู้เรื่องกฎ ระเบียน ด้านการนำเข้า – ส่งออก ซึ่งมีส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ โดยมีวัตถุประสงค์
1.บริการผู้ประกอบการที่มีความประสงค์จะนำเสินค้าเข้า – ออก ได้ทราบกฎระเบียนว่าสินค้าต้องห้ามชนิดไหนบ้าง ที่ขัดต่อกฎ ระเบียบของกระทรวงพาณิชย์
2.เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการในการที่จะต้องเดินทางมาติดต่อราชการกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมือง ซึ่งห่างจากอำเภอแม่สอดประมาณ 90 กิโลเมตร
3.เพื่อให้การปฏิบัติราชการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ในด้านการบริการประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวกและรวมเร็ว เพื่อให้ผู้มารับบริการเกิดความพึงพอใจในหน่วนงานของจังหวัดตาก และของกระทรวงพาณิชย์
การนำเข้าไม้และสิ่งประดิษฐ์
สิ่งประดิษฐ์จากไม้ จากประเทศพม่า เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้ดุลการค้าของจังหวัดตากเพิ่มขึ้น ไม้และสิ่งประดิษฐ์ที่นำเข้ามายังประเทศไทย ผ่านตามจุดชายแดน 5 อำเภอทางฝั่งตะวันตกนั้น เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายผู้ที่ค้าขายสิ่งประดิษฐ์นี้จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฏ ระเบียบทองทางราชการ โดยการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่หน่ายงานของรัฐกำหนดไว้เท่านั้น โดยได้แต่งตั้งข้าราชการของหน่วยงานทางราชการประกอบด้วย
1. ผู้แทนจากอำเภอ
2. ผู้แทนด่านศุลกากร
3. ผู้แทนจากทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
4. ผู้แทนฝ่ายทหาร
5.ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนทั้ง 5 หน่วยงานจะต้องลงนามเอกสารทางราชการออกให้ว่าสิ่งประดิษฐ์ที่นำเข้ามานี้ได้ผ่านตามขั้นตอนของทางราชการ ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง จะขนไปยังต่างจังหวัดก็ไม่ผิดกฎหมาย
******************
1. วันที่ 2 กันยายน 2549 หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ได้จัดงาน ”สานสัมพันธ์หอการค้า” ณ โรงแรมเซ็นทรัลแม่สอดฮิลล์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และหอการค้าจากประเทศพม่า และผู้ประกอบการภาคเอกชนและหอการค้าจังหวัดตาก และภาครัฐ เข้าร่วมงานนี้ ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมงานและเห็นความสำคัญของการจัดงาน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทย และประเทศพม่า และทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ เกิดความจริงใจ และความเข้าใจอันดีต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศต่อไป
2. วันที่ 12 กันยายน 2549 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตากได้จัดสัมมนาเรื่อง “ความรู้ด้านการนำเข้า – ส่งออก” ซึ่งจัด ณ โรงแรมเซ็นทรัลแม่สอดฮิลล์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยได้มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยคณะทำงานเศรษฐกิจการค้าชายแดนจังหวัดตาก จากภาครัฐบาล และภาคเอกชน ประกอบด้วย ประธานหอการค้า และประธานสภาอุตสาหกรรม
การจัดสัมมนาครั้งนี้ คิดว่ามีความสำคัญมาก เพราะจังหวัดตากเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจชายแดนของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยการเพิ่มพูนความรู้ด้านการนำเข้า – ส่งออกให้กับผู้ประกอบการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้เกี่ยวกับการนำเข้า – ส่งออก จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาการค้าระหว่างไทยด้านจังหวัดตากกับสหภาพพม่า เพราะฉะนั้น การสัมมนาครังนี้ ทำให้ผู้เข้ารับการสัมมนามีความรู้ ความเข้าใจกฎระเบียบด้านการนำเข้า-ส่งออกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าสินค้าเกษตรภายใต้โครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนสินค้าเกษตร หรือโครงการ Contract Farming ที่จะเป็นการส่งเสริมให้มูลค่าการค้าบริเวณชายแดนด้านจังหวัดตากมีมูลค่าการค้าบริเวณชายแดนด้านจังหวัดตากมีมูลค่าสูงขึ้น
3. วันที่ 14 – 17 กันยายน 2549 ได้นำกลุ่มผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับจากจังหวัดตากเข้าร่วมออกบู๊ธและเข้าศึกษาดูงาน BANGKOK and JEWELRY FAIR : GEMS ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 17 กันยายน 2549 โดยวันที่ 14 – 16 กันยายน จะเป็นการจัดแสดงสินค้าอย่างเดียว ไม่มีการซื้อขายกัน ส่วนวันที่ 17 กันยายน จะเป็นการตกลงซื้อขายกันระหว่างประเทศ อัญมณีของกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้ร่วมออกงานและจำหน่ายครั้งนี้เป็นอัญมณีที่มาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีชายไทยและชาวต่างชาติสนใจและช่วยอุดหนุนเป็นอย่างมาก เป็นการส่งเสริมสินค้าด้านอัญมณีซึ่งมาจากชายแดนจังหวัดตากมีมูลค่าสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
—————————-
การค้าชายแดน : การเชื่อมสัมพันธ์ตามแนวชายแดน
ข้อมูลจาก ศูนย์การค้าชายแดน
————————————————————————————————————————–
1.บทนำ : จากสนามรบสู่ตลาดการค้า
การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากขนาดการค้าที่ใหญ่ขึ้นและผลกระทบของความไม่แน่นอนภายนอกภูมิภาคสูงขึ้น มีประเด็นที่พึงสนใจได้แก่
1.1 ลักษณะการค้าชายแดนทั่วไป หมายถึงการค้าขนาดเล็กและขนาดกลางของประชาชนหรือผู้ประกอบการที่อยู่ใกล้บริเวณชายแดน ส่วนใหญ่มักเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตรและของป่า จากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการค้าและการลงทุนการค้าชายแดนจึงเกี่ยวข้องกับบริษัทใหญ่ในศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น สัดส่วนการค้าของประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคของการค้าชายแดนได้ในระยะยาว
1.2 เหตุผลที่การค้าชายแดนไทยขยายตัวที่สำคัญได้แก่ 1) การดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ทำให้จีนกลายเป็นโรงงานโลกและแหล่งลงทุนสำคัญในภูมิภาค 2) การปรับนโยบาย 3 ประเทศอินโดจีน คือ เวียดนาม ลาว กัมพูชา ทั้งหมดได้เข้าสมาชิกกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้พม่าได้เลิกแนวทางสังคมนิยม หันมาใช้ระบบตลาด และได้เข้าร่วมกลุ่มอาเซียน 3) การปรับนโยบายของทางการไทยที่มุ่งเปลี่ยนสนามรบเป็นตลาดการค้า 4) การสนับสนุนของสถาบันการเงินได้แก่ธนาคาร เพื่อการพัฒนาเอเชียและธนาคารโลก 5) การขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ซึ่งทำให้การค้าระหว่างกันขายตัวตามไปด้วย
1.3 โครงการสำคัญของการค้าชายแดนไทย มี 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการหกเหลี่ยมเศรษฐกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับ 6 ประเทศได้แก่ ประเทศจีนตอนใต้ พม่า เวียดนาม ลาว ไทย กัมพูชา และโครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจซึ่งมีประเทศที่เกี่ยวข้องได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ซึ่งประเทศไทยนับว่าเป็นตัวเชื่อมสำคัญของการค้าชายแดนของภูมิภาค ทั้งสภาพภูมิศาสตร์ ขนาดของประเทศ และขนาดทางเศรษฐกิจ
1.4 ปัญหาและอุปสรรคพื้นฐานของการค้าชายแดน ได้แก่ 1) การขาดความไว้วางใจกัน ขาดต้นทุนทางสังคมหรือทุนทางการเมือง 2) ความอ่อนไหวทางการเมืองภายในบางประเทศ 3) ทิศทางและระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ-การเมืองที่ต่างกัน 4) โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจหลายประเทศไม่ได้รับการพัฒนา ซึ่งที่สำคัญเกิดจากบาดแผลทางสงคราม 5) ปัญหาระบบการเงินและกฏระเบียบต่างๆ เงินที่ใช้ในการค้าหลายสกุลไม่มั่นคง และมีกฏระเบียบที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและไม่เอื้อต่อการค้า 6) การค้านอกระบบ ทำให้ผู้ที่ค้าในระบบต้องเสียเปรียบ และทำให้จำต้องออกกฏระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า
1.5 จุดแข็งและข้อได้เปรียบของการค้าชายแดน ได้แก่ 1) ระยะทางขนส่งใกล้ 2) สนับสนุนท้องถิ่น 3) เสริมความสัมพันธ์และความใกล้ชิดกันในภูมิภาค 4) ลดทอนการแข่งขันที่มากเกินไปและเสริมจุดแข็งของกันและกัน 5) ลดทอนผลกระทบจากภายนอกซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง จุดแข็งนี้เห็นได้ชัดในประเทศกำลังพัฒนา มีบรรษัทข้ามชาติจำนวนมากต้องการค้าข้ามแดนมากว่าค้าชายแดน และพยายามแทรกแซงทำให้การค้าชายแดนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการค้าและการลงทุนข้ามชาติไป จึงเป็นงานยากไม่น้อยสำหรับประเทศกำลังพัฒนา
1.6 การค้าทำให้การค้าชายแดนก่อผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืนนั้นต้องแก้ไขจุดอ่อนของการค้าเสรีที่ครอบงำโลกอยู่ เพราะว่าการค้าที่เป็นอยู่มีแนวโน้มที่จะต้องเสียค้าขนส่งไกล นำไปสู่ลัทธิอุตสาหกรรมที่ไม่เอื้อต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำลายสิ่งแวดล้อม และขยายช่องว่างในสังคม ซึ่งจะทำให้การค้านี้เปิดโอกาสใหม่แก่ประเทศ
2. หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ : พันธมิตรใหม่ประตูใหญ่ทางการค้า
2.1 ลักษณะทั่วไป
เป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของ 6 ประเทศที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จีนตอนใต้ (ยูนนาน) พม่า เวียดนาม ลาว ไทย กัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม การเกษตร ท่องเที่ยวและบริการ โดยคาดหวังว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น มีธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียเป็นผู้สนับสนุนใกล้ชิด โครงการนี้ได้กระชับความร่วมมือยิ่งขึ้นเมื่อมีการประชุมสุดยอดเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2545 ที่กรุงพนมเปญ
2.2 สถานการณ์และแนวโน้ม
โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของพันธมิตรใหม่ ซึ่งเคยมีความขัดแย้งกันสูงทั้งในประวัติศาสตร์ เก่า และในประวัติศาสตร์ระยะใกล้ช่วงสงครามเย็น กว่าที่ประเทศต่างๆ จะเกิดความสงบและหันหน้าเข้าหากัน
Leave a comment
Comments 0